หนองในแท้
โรคหนองในแท้ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อย เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Neisseria gonorrhoeae เชื้อนี้จะทำให้เกิดโรคเฉพาะเยื่อเมือก mucous membrance เช่น เยื่อเมือกในท่อปัสสาวะ ช่องคลอด ปากมดลูก และเยื่อบุมดลูก, ท่อรังไข่, ทวารหนัก, คอ และเยื่อบุตา อาการที่พบได้บ่อยสำหรับผู้ชายคือ ปวดแสบขณะปัสสาวะ และมีหนองสีเหลือง สำหรับผู้หญิง ครึ่งหนึ่งมักไม่มีอาการ หรือ มีตกขาว หรือเลือดผิดปกติ และปวดอุ้งเชิงกราน ทั้งผู้ชายและผู้หญิงถ้าเป็นโรคหนองในแท้โดยที่ไม่ได้รักษา มันสามารถแพร่กระจายเฉพาะที่เกิดเป็นโรค epididymitis หรือ pelvic inflammatory disease หรือ แพร่กระจายตามส่วนต่าง ๆ มีผลต่อข้อและลิ้นหัวใจ
การรักษามักใช้ยา ceftriaxone เนื่องจากมีการพัฒนาการดื้อต่อยา(antibiotic resistance) ต่อยาหลายตัวที่ใช้กันก่อนหน้านี้ โดยทั่วไปแล้ว มักใช้ร่วมกับ azithromycin หรือ doxycycline มีเชื้อ gonorrhea บางสายพันธุ์ ดื้อต่อยา ceftriaxone
การรักษามักใช้ยา ceftriaxone เนื่องจากมีการพัฒนาการดื้อต่อยา(antibiotic resistance) ต่อยาหลายตัวที่ใช้กันก่อนหน้านี้ โดยทั่วไปแล้ว มักใช้ร่วมกับ azithromycin หรือ doxycycline มีเชื้อ gonorrhea บางสายพันธุ์ ดื้อต่อยา ceftriaxone
อย่าปล่อยให้ใส้กรอกคุณ กลายเป็นใส้กรอกชีส!!
อาการ
ครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยหญิงมักไม่มีอาการ หรืออาจมีอาการตกขาว หรือเลือดผิดปกติ ปวดทองน้อย หรือปวดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ สำหรับผู้ป่วยชายจะมีอาการท่อปัสสาวะอักเสบ โดยมีอาการปวดแสบขณะปัสสาวะและมีหนองสีเหลืองไหลออกจากองคชาต การมีเพศสัมพันธ์ทางปากทำให้ได้รับเชื้อจากคนที่เป็นโรค โดยมักจะเป็นเพศชาย 90% ไม่มีอาการทางปาก 10% มีอาการเจ็บคอ ระยะฟักตัว 2 - 14 วัน โดยมักมีอาการเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 4 - 6 วันหลังจากติดเชื้อ ในผู้ป่วยส่วนน้อยบางคนอาจมีโรคบริเวณผิวหนังและปวดบวมที่ข้อหลังจากที่เชื้อเข้าสู่กระแสเลือด มีผู้ป่วยไม่กี่รายที่มีอาการที่หัวใจทำให้เป็นโรค endocarditis หรือที่ไขสันหลังทำให้เป็นโรค meningitis(ทั้งสองโรคมักเกิดในผู้ป่วยที่ถูกกดระบบภูมิคุ้มกัน)
คงไม่ดีแน่ๆ ถ้าน้องชายคุณผลิตโยเกิดเองได้
การติดต่อ
ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งทางปาก ช่องคลอด หรือทวารหนัก การมีเพศสัมพันธ์ทางปากจะทำให้เชื้อติดต่อทั้งจากอวัยวเพศไปปาก และจากปากไปอวัยวะเพศ ในกรณีที่ช่องคลอดหรืออวัยวะเพศปนเปื้อนหนองที่มีเชื้อก็สามารถติดเชื้อนี้ได้โดยไม่จำเป็นต้องร่วมเพศ และยิ่งมีเพศสัมพันธ์กับคู่ขามากขึ้นเท่าไรก็ยิ่งมีโอกาสติดเชื้อเพิ่มขึ้น การนั่งฝาโถส้วมหรือสัมผัสมือกันไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อนี้
การวินิจฉัย
โดยทั่วไปแล้ว วินิจฉัยจากย้อมเชื้อ (gram stain) และเพาะเชื้อ (culture) อย่างไรก็ตาม การทดสอบแบบใหม่ polymerase chain reaction (PCR) เป็นที่นิยมมากขึ้น ผู้ป่วยทุกคนที่ทดสอบแล้วได้ผลบวกต่อเชื้อหนองในแท้ ควรจะทดสอบตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ เช่น chlamydia, syphilis, aids/hiv
การป้องกัน
การป้องกันจากเชื้อหนองในแท้จากการงดเว้นมีเพศสัมพันธ์ สามารถลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อโดยการใช้ถุงยางอนามัยและมีเพศสัมพันธ์กับคู่ครองคนเดียวที่ไม่เป็นโรค
การรักษา
ในปี 2010 ยา ceftriaxone แบบฉีด เป็นยาหนึ่งในยา antibiotics ที่ได้ผล โดยทั่วไปแล้วให้ร่วมกับยา azithromycin หรือ doxycycline
ยา antibiotics หลายตัวที่เคยได้ผลประกอบด้วย penicillin, tetracycline และ fluoroquinolone ไม่ได้รับการรับรองเพราะมีอัตราการดื้อยาสูง การดื้อต่อยา cefixime ถึงระดับที่ไม่สามารถรับรองเป็นยา first line ในประเทศสหรัฐอเมริกา และถ้ายาชนิดนี้ถูกใช้ในคน ควรจะทดสอบอีกครั้งหลัง 1 สัปดาห์ เพื่อตัดสินใจถ้ามีการติดเชื้อยังคงอยู่ ผู้ป่วยรายที่มีการดื้อยาต่อ ceftriaxone ถูกประกาศแต่ยังมีน้อย
มีการแนะนำให้ผู้ที่ร่วมเพศด้วยได้รับการตรวจและรักษา
ยา antibiotics หลายตัวที่เคยได้ผลประกอบด้วย penicillin, tetracycline และ fluoroquinolone ไม่ได้รับการรับรองเพราะมีอัตราการดื้อยาสูง การดื้อต่อยา cefixime ถึงระดับที่ไม่สามารถรับรองเป็นยา first line ในประเทศสหรัฐอเมริกา และถ้ายาชนิดนี้ถูกใช้ในคน ควรจะทดสอบอีกครั้งหลัง 1 สัปดาห์ เพื่อตัดสินใจถ้ามีการติดเชื้อยังคงอยู่ ผู้ป่วยรายที่มีการดื้อยาต่อ ceftriaxone ถูกประกาศแต่ยังมีน้อย
มีการแนะนำให้ผู้ที่ร่วมเพศด้วยได้รับการตรวจและรักษา
ระบาดวิทยา
Gonorrhea เป็นโรคติดเชื้อที่พบได้บ่อย WHO ประมาณการว่ามี 62 ล้านผู้ป่วยที่เป็น gonorrhea ปรากฏแต่ละปี
ในประเทศอังกฤษ จำนวนผู้ชาย 196 คนต่อ 100,000 คน อายุ 20 ถึง 24 ปี และจำนวนผู้หญิง 133 คนต่อ 100,000 คน อายุ 16 ถึง 19 ปี ได้รับการวินิจฉัยในปี 2005 CDC ประมาณการว่ามากกว่า 700,000 คนในประเทศสหรัฐฯ ได้รับการติดเชื้อ gonorrhea แต่ละปี แค่ประมาณครึ่งของผู้ป่วยเหล่านี้ถูกประกาศต่อ CDC ในปี 2004 ผู้ป่วย gonorrhea 330,132 คน ถูกประกาศต่อ CDC หลังจากการทำให้เกิดผลของโปรแกรมการควบคุม gonorrhea แห่งชาติ ในครึ่งปี 1970, อัตราการเป็นโรค gonorrhea ลดลงจาก 1975 ถึง 1997 หลังจากมีการเพิ่มเล็กน้อยในปี 1998 อัตราการเป็นโรค gonorrhea ได้ลดลงอย่างเล็กน้อยตั้งแต่ปี 1999 ในปี 2004 อัตราการการติดเชื้อเป็น 113.5 คนต่อ 100,000 คน
ในประเทศสหรัฐฯ Gonorrhea เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อยเป็นอับดับ 2 รองจาก chlamydia จาก CDC, ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันเป็นโรค gonorrhea มากที่สุด ชาวผิวดำเป็นประมาณ 69% ต่อผู้ป่วย gonorrhea ทั้งหมดในปี 2010
ในประเทศอังกฤษ จำนวนผู้ชาย 196 คนต่อ 100,000 คน อายุ 20 ถึง 24 ปี และจำนวนผู้หญิง 133 คนต่อ 100,000 คน อายุ 16 ถึง 19 ปี ได้รับการวินิจฉัยในปี 2005 CDC ประมาณการว่ามากกว่า 700,000 คนในประเทศสหรัฐฯ ได้รับการติดเชื้อ gonorrhea แต่ละปี แค่ประมาณครึ่งของผู้ป่วยเหล่านี้ถูกประกาศต่อ CDC ในปี 2004 ผู้ป่วย gonorrhea 330,132 คน ถูกประกาศต่อ CDC หลังจากการทำให้เกิดผลของโปรแกรมการควบคุม gonorrhea แห่งชาติ ในครึ่งปี 1970, อัตราการเป็นโรค gonorrhea ลดลงจาก 1975 ถึง 1997 หลังจากมีการเพิ่มเล็กน้อยในปี 1998 อัตราการเป็นโรค gonorrhea ได้ลดลงอย่างเล็กน้อยตั้งแต่ปี 1999 ในปี 2004 อัตราการการติดเชื้อเป็น 113.5 คนต่อ 100,000 คน
ในประเทศสหรัฐฯ Gonorrhea เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อยเป็นอับดับ 2 รองจาก chlamydia จาก CDC, ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันเป็นโรค gonorrhea มากที่สุด ชาวผิวดำเป็นประมาณ 69% ต่อผู้ป่วย gonorrhea ทั้งหมดในปี 2010